วันศุกร์ที่ 14 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

ประเพณีวันออกพรรษา น่ารู้

xn--k3cikmwc5gwb5fxbya.com
หากพูดถึงวันออกพรรษานั้นแล้ว หลายท่านคงนึกถึง การทำบุญตักบาตร ฟังธรรมเทศนา ที่วัดใกล้บ้าน และก็คงนึกถึงการตักบาตรเทโว ที่ทุกคนรู้จักในชื่อ วันเทโวโรหณะ  หรือรู้จักกันในวันพระพุทธเจ้าเปิดโลก มีประวัติ ดังนี้คือในพรรษาที่ 7 นับแต่ปีที่ตรัสรู้ พระพุทธองค์จึงได้เสด็จขึ้นไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ เทศนาพระอภิธรรมปิฎกโปรดพระพุทธมารดาอยู่หนึ่งพรรษา หรือ 3เดือน ครั้นถึงวันปวารณาออกพรรษา วันแรม 1 ค่ำ เดือน 11 พระพุทธองค์จึงเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ทางบันไดทิพย์ ทั้ง 3 ได้แก่ บันไดเงิน และ บันไดทอง และ บันไดแก้ว ซึ่งสักกเทวราช หรือพระอินทร์ ให้พระวิษณุกรรมเนรมิตทอดจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์สู่โลกมนุษย์ ที่ ประตูเมืองสังกัสนคร  บรรดาพุทธศาสนิกชนพอทราบข่าวต่างก็มารอรับตักบาตรภัตตาหารกันอย่างเนืองแน่นชาวพุทธจึงยึดถือปรากฎการณ์ ในวัน แรม1 ค่ำ เดือน 11 ของทุกปี ให้เป็นวันคล้ายวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงสู่โลกมนุษย์ เรียก “วันเทโวโรหณะ” และ วันพระพุทธเจ้าเปิดโลก เพราะวันนั้นโลกทั้ง 3 คือ สวรรค์ มนุษย์ และ บาดาล หรือนรกภูมิ ต่างสามารถแลเห็นกันได้ตลอดทั้ง 3 โลก โดยในวันออกพรรษานั้นมีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ในอดีตกาลดังที่จะกล่าวครับ ครั้นในอดีตที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้แล้วถึงวันเข้าพรรษาและพระพุทธเจ้าทรงประทับจำพรรษาอยู่ ณ พระเชตุวันมหาวิหาร กรุงสาวัตถี เมื่อมีพระภิกษุมาจำพรรษาอยู่มากมายพระภิกษุเหล่านั้นจึงเกรงจะเกิดการขัดแย้งกันจนอยู่ไม่สุขตลอดพรรษา จึงได้ตั้งกฏกติกาว่าจะไม่พูดจากัน (มูควัตร)  เมื่อถึงวันออกพรรษาพระภิกษุเหล่านั้นก็พากันไปเข้าเฝ้าพระพุทธเจ้าที่พระเชตวันมหาวิหาร กราบทูลเรื่องทั้งหมดให้ทรงทราบ พระพุทธเจ้าทรงตำหนิ แล้วทรงมีพระบรมพุทธานุญาตให้พระภิกษุกระทำการปวารณาต่อกันว่า
“ภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตให้ภิกษุทั้งหลายผู้จำพรรษาแล้วปวารณากันในสามลักษณะ คือด้วยการเห็นก็ดี ด้วยการได้ยินก็ดี ด้วยการสงสัยก็ดี”
และได้มีหลักธรรมที่ควรปฏิบัติในวันออกพรรษา มีหลักธรรมสำคัญที่ควรนำไปปฏิบัติ คือ ปวารณา การเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าวตักเตือนตนเองได้ ในการปวารณานี้อาจแบ่งบุคคลออกเป็น 2 ฝ่าย คือ
ผู้ว่ากล่าวตักเตือน จะต้องเป็นผู้มีเมตตา ปรารถนาดีต่อผู้ที่ตนว่ากล่าวตักเตือน เรียกว่ามีเมตตาทางกาย ทางวาจา และทางใจ พร้อมมูล
ผู้ถูกว่ากล่าวตักเตือน ต้องมีใจกว้าง มองเห็นความปรารถนาดีของผู้ตักเตือน ดีใจดังมีผู้มาบอกขุมทรัพย์ให้ การปวารณา จึงเป็นคุณธรรมสร้างความสมัครสมานสามัคคีและดำรงความบริสุทธิ์หมดจดไว้ในสังคมพระสงฆ์ การปวารณา แม้จะเป็นสังฆกรรมของสงฆ์ ก็อาจนำมาประยุกต์ใช้กับสังคมชาวบ้าน เช่น การปวารณากันระหว่างสมาชิกในครอบครัว ในสถานศึกษา ในสถานที่ทำงาน พนักงานในห้างร้าน บริษัทและหน่วยงานราชการ เป็นต้น
ในส่วนของความสำคัญในวันออกพรรษากล่าวได้ว่า ในวันออกพรรษา เป็นวันสำคัญของพุทธศาสนา ด้วยเหตุผลดังนี้  หลังจากวันออกพรรษาพระสงฆ์ได้รับพระบรมพุทธานุญาตให้จาริกไปค้างแรมที่อื่นได้และ เมื่อออกพรรษาแล้วพระสงฆ์จะได้นำความรู้จากหลักธรรมและประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างพรรษาไปเผยแผ่แก่ประชาชนซึ่งในวันออกพรรษาพระสงฆ์ได้ทำปวารณา เปิดโอกาสให้เพื่อนพระภิกษุว่ากล่าวตักเตือนเรื่องความประพฤติของตนเพื่อให้เกิดความบริสุทธิ์ ความเคารพนับถือและความสามัคคีกันและพุทธศาสนิกชนได้นำแบบอย่างไปทำปวารณาเปิดโอกาสให้ผู้อื่นว่ากล่าว ตักเตือนตนเองเพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาตนและสร้างสรรค์สังคมต่อไป
กิจกรรมเกี่ยวกับครอบครัวในวันออกพรรษา  ในวันออกพรรษานั้น แต่ละครอบครัวก็ช่วย ทำความสะอาดบ้าน  ประดับธงชาติและธงธรรมจักร จัดแต่งที่บูชาประจำบ้าน ศึกษาเอกสารและสนทนาเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรม การปวารณาและแนวทางปฏิบัติในครอบครัวสมาชิกในครอบครัว เพื่อจะได้ปรึกษา หารือ หาแนวทางในการป้องกันการแก้ปัญหา โดยใช้หลักธรรม คือ ปวารณา ในวันออกพรรษา ครอบครัวจะได้มีโอกาสไปบำเพ็ญกุศล ทำบุญตักบาตร บริจาคทานปฏิบัติธรรมที่วัด รักษาศีล ไหว้พระสวดมนต์ ฟังธรรมเจริญภาวนา ในกรณีที่เป็นวันหยุดเนื่องในวันออกพรรษา
กิจกรรมเกี่ยวกับสถานที่ทำงานในวันออกพรรษา จะได้มีการทำความสะอาดบริเวณที่ทำงาน ประดับธงชาติและธงธรรมจักร จัดแต่งโต๊ะหมู่บูชา ประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรมเรื่อง ปวารณาและแนวทางปฏิบัติในสถานที่ทำงานและ จัดให้มีการบรรยายธรรมและสนทนาธรรมร่วมกันบำเพ็ญสาธารณประโยชน์ ปลูกต้นไม้ บริจาคโลหิต โดยหัวหน้าหน่วยงานให้โอกาสผู้ร่วมงานไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีนิยม ในกรณีที่เป็นวันหยุดมีการจัดทำป้ายนิเทศเกี่ยวกับอุดมการณ์ในการทำงานโดยมีเป้าหมายจะละเว้นการกระทำชั่วในเรื่องใดๆ และกิจกรรมอื่นที่เหมาะสม
กิจกรรมเกี่ยวกับสถานศึกษาในวันออกพรรษา มีการทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน ประดับธงชาติและธงธรรมจักร จัดแต่งโต๊ะหมู่บูชา ครูและนักเรียนร่วมกันศึกษาถึงความสำคัญของวันออกพรรษา รวมทั้งหลักธรรม เรื่องปวารณาและแนวทางปฏิบัติในสถานศึกษา มีการให้นักเรียนจัดทำป้ายนิเทศ หรือจัดนิทรรศการ ประกวดเรียงความ ทำสมุดภาพ ตอบปัญหาธรรม บรรยายธรรม อภิปรายธรรม จัดทำรายงานเกี่ยวกับพฤติกรรมที่ดีกับพฤติกรรมที่ไม่ดี และวางแผนพัฒนาพฤติกรรมไม่ดีให้น้อยลง มีการประกาศเกียรติคุณนักเรียนที่ประพฤติตัวเป็นแบบอย่างที่ดีและ ครูพานักเรียนไปร่วมกิจกรรมกับชุมชนที่วัด บำเพ็ญกุศลทำบุญตักบาตร บริจาคทาน รักษาศีล ฟังธรรม สนทนาธรรม เจริญภาวนา ในกรณีที่เป็นวันหยุด และกิจกรรมอื่นที่เหมาะสม
วัตถุประสงค์ของกิจกรรมวันออกพรรษา เพื่อให้พุทธศาสนิกชนมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความสำคัญของวันออกพรรษารวมทั้งหลักธรรม เรื่อง ปวารณาและแนวทางปฏิบัติและเพื่อให้พุทธศาสนิกชนมีทักษะในการคิดและการปฏิบัติตนอย่างถูกต้องในวันออกพรรษา และสามารถเลือกสรรหลักธรรม คือปวารณา ไปใช้ในการดำเนินชีวิตเพื่อพัฒนาตนและสังคม พุทธศาสนิกชนจะเกิดเจตคติที่ดีต่อวันออกพรรษา และเห็นคุณค่าของการดำเนินชีวิตตามหลักธรรมคือ ปวารณา เกิดศรัทธา ซาบซึ้งและตระหนักถึงความสำคัญของพระพุทธศาสนาและสุดท้าย เพื่อให้พุทธศาสนิกชนเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดีและปฏิบัติตนตามหน้าที่ของพุทธศาสนิกชนได้อย่างถูกต้อง

ประเพณีวันออกพรรษาในแต่ละภาค ส่วนใหญ่แล้วในวันออกพรรษาของแต่ละภาคจะไม่เหมือนกันครับเราจะมาทำความรู้จักกับการทำบุญวันออกพรรษาในแต่ละภาคกันดังนี้ครับ
ภาคเหนือ  นั้นจะเน้นในเรื่องของการปล่อยโคมลอยซึ่ง ชาวบ้านหรือคนพื้นเมืองเหนือจะนิยมเล่น หรือมีการแข่งขันกันทำโคมในเทศกาลงานประเพณีสำคัญ ๆ ของหมู่บ้านของตน อาทิ งานทำบุญวันเข้าพรรษา งานทำบุญวันออกพรรษา หรืองานบุญต่าง ๆ ตามวันสำคัญทางพระพุทธศาสนา โดยชาวบ้านมักมีความเชื่อกันว่า การปล่อยโคมให้ล่องลอยไปบนอากาศนั้น เพื่อให้ ‘โคม’ ซึ่งเป็นเหมือนสื่อกลางในการพาเอาเคราะห์ร้ายภัยพิบัติ เรื่องราวที่ไม่ดี ต่าง ๆ ให้ลอยออกไปจาก
ภาคกลาง ที่จังหวัดอุทัยธานีจะมีประเพณีการตักบาตรเทโว พระภิกษุก็จะเดินลงมาจากวัดซึ่งตั้งอยู่บนยอดเขาสูง ณ วัดสะแกกรัง ลงมารับบิณฑบาตจากชาวบ้าน โดยขบวนพระภิกษุสงฆ์ที่ลงมาจากบันไดนั้นนิยมให้มีพระพุทธรูปนำหน้า ทำการสมมติว่าเป็นพระพุทธเจ้า จะใช้พระปางอุ้มบาตร ห้ามมาร ห้ามสมุทร รำพึง ถวายเนตรหรือปางลีลา ตั้งไว้บนรถหรือตั้งบนคานหาม มีที่ตั้งบาตรสำหรับอาหารบิณฑบาต   จังหวัดนครปฐม ที่พระปฐมเจดีย์ พระภิกษุสามเณรจะมารวมกันที่องค์พระปฐมเจดีย์ แล้วก็เดินลงมาจากบันไดนาคหน้าวิหารพระร่วง สมมติว่าพระเดินลงมาจากบันไดสวรรค์ชาวบ้านก็คอยใส่บาตร
ภาคใต้ ประเพณีชักพระ ซึ่งภาษาถื่นทางภาคใต้จะเรียกว่า พิธีลากพระ ซึ่งมีด้วยกันถึง 2 แบบ คือ ชักพระทางบก และชักพระทางน้ำ
การชักพระทางบก จะจัดขึ้นเป็นประจำสืบเนื่องกันมาตลอดหลัก ๆ อยู่ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ซึ่งก่อนหน้าวันชักพระ 2 วันจะมีพิธีการตักบาตรหน้าล้อนคือการใส่อาหารคาวหวานแล้ว ยังมีสิ่งที่สื่อแทนเป็นสัญลักษณ์ของงานทำบุญวันออกพรรษา นั่นก็คือ ‘ปัด’ โดยในภาคกลางมีชื่อเรียกว่า ข้าวต้มลูกโยน โดยก่อนหน้าที่จะถึงวันออกพรรษาประมาณ 1-2 สัปดาห์ทางวัดจะทำเรือบก คือ การเอาท่อนไม้ขนาดใหญ่ 2 ท่อนมาแกะสลักทำเป็นพญานาค 2 ตัว เพื่อเป็นแม่เรือที่มีการยึดไว้อย่างแข็งแรง แล้วจึงปูด้วยแผ่นไม้กระดาน วางบุษบก ก่อนจะนำพระพุทธรูปยืน ส่วนรอบบุษบกจะทำการวางเครื่องดนตรี ไว้เพื่อบรรเลงเวลาเคลื่อนขบวนพระไปยังบริเวณงานโดยรอบนั่นเอง
ครั้นพอถึงช่วงเช้าวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 11 ชาวบ้านจะออกมาช่วยกันชักพระ โดยถือเชือกขนาดใหญ่ประมาณ 2 เส้นที่ได้ทำการผูกไว้กับพญานาคทั้ง 2 ตัว ซึ่งภายในบริเวณงานจะมีการสมโภช และมีการเล่นกีฬาพื้นบ้านต่าง ๆ มากมาย 2.การชักพระทางน้ำ
การทำพิธีชักพระทางน้ำ ก็จะจัดขึ้นก่อนถึงวันแรม 1 ค่ำเดือน 11 เช่นกัน โดยทางวัดที่อยู่ติดกับริมแม่น้ำ จะรับหน้าที่ในการตระเตรียมสิ่งของต่าง ๆ อย่างเช่นการนำเรือมาประมาณ 2-3 ลำ มาปูพื้นด้วยไม้กระดานเพื่อตั้งบุษบก หรือมีการพนมพระก่อนจะประดับประดาด้วยธงทิว ภายในตัวของบุษบกก็จะทำการตั้งพระพุทธรูปในเรือ ซึ่งในบางครั้ง ก็จะมีเครื่องดนตรีคอยประโคมคลอไปตลอดทางที่เรือเคลื่อนตัวไปจนรอบสถานที่ที่กำหนด

xn--k3cikmwc5gwb5fxbya.com
ประโยชน์ของการทำบุณวันออกพรรษา
การทำบุญวันออกพรรษาจะเตือนสติว่าเวลาที่ผ่านพ้นไปอีกพรรษาหนึ่งแล้วได้คร่าชีวิตมนุษย์ ให้ผู้คนนั้นดำรงอยู่ในความไม่ประมาทและหันมาสร้างกุศล
การทำบุญวันออกพรรษาจะเปิดโอกาสให้ผู้อื่นชำระความผิดของตนได้ คือหลักปวารณา ปกติคนเราคบกันนานๆ ก็จะเผย “สันดาน” ที่แท้ออกมา อาจจะไม่ดีนักแต่ตนเองไม่รู้ตัวแล้วมองไม่เห็น แต่ผู้อยู่ข้างๆ มองเห็นแต่ไม่กล้าเตือน ดังนั้นตนเองต้องปวารณาตัวให้ผู้อื่นชี้แนะได้ ความสัมพันธ์ก็จะดีขึ้นและยั่งยืน
การทำบุญวันออกพรรษทำให้เราได้ข้อคิดที่ว่า คนเราส่วนใหญ่มักจะลำเอียงเข้าข้างตนเองเป็นฝ่ายถูก ความผิดของคนอื่นเห็นง่ายส่วนตนเองนั้นความผิดนั้นเห็นยาก นี่แหละสัญชาตญาณของคนเรา
การทำบุญวันออกพรรษาเป็นการให้รู้ถึงการมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีในการเปิดใจซึ่งกันและกัน โดยไม่มีเล่ห์เหลี่ยมลับลมคมในใดๆ ต่อในการคบหาหรืออยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข
สำหรับในวันออกพรรษาปีนี้ น่าจะเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมและเป็นโอกาสอันดี สำหรับการย้อนกลับมามองดูตัวเองว่าได้มีการทำสิ่งใดผิดพลาดไว้บ้าง เพื่อที่จะได้ทำการปรับปรุงแก้ไขและไม่ทำผิดซ้ำในเรื่องเดิมอีกและมีถือโอกาส ทำบุญวันออกพรรษากับครอบครัวในวันหยุดเพื่อความเจริญรุ่งเรืองและเป็นมงคลกับชีวิตครับ